วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

บทกลอน "สักวัน" และ "คำบ้านคำเมือง" แด่คนไทยผู้ใช้ภาษาไทย

อาจารย์สุชิน  ประพันธ์พจน์ 
เมื่อวันที่ 24-25 ม.ค.2554 ผมได้มีโอกาสไปอบรม "โครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจต่อสถานีวิทยุกระจายเสียงชุมชน (ภาคกลาง ภูมิภาคตะวันตกและปริมณฑล)"  ณ หอประชุมใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยความร่วมมือของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง ได้จัดขึ้น

ซึ่งในการบรรยายช่วงหนึ่ง อาจารย์สุชิน  ประพันธ์พจน์  ซึ่งถือว่าเป็นปราชญ์ท่านหนึ่งของชาวราชบุรี ท่านได้บรรยายเรื่อง "การใช้ภาษาไทย" และท่านได้แต่งบทกลอน  2 เรื่องประกอบการบรรยาย อ่านดูแล้วผมเห็นว่าน่าจะนำมาบันทึกไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติ เตือนใจให้คนไทยทุกคน (โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ) ได้มีความตะหนักถึงการใช้ภาษาไทยกันบ้าง ลองอ่านดูนะครับ

"...สักวัน..."

ฟุต ฟิต ฟอ ไฟ ไอ ไอ ยู ยู
รับรู้ต้องโอเค จึงเก๋ไก๋
ออกเสียงอักขระพยัญชนะไทย
เหมือนฝรั่งเท่าไรภูมิใจจัง

พูดไทยคำฝรั่งคำนำสมัย
จะเข้าใจต้องพูดจาภาษาฝรั่ง
คนไทยร้องเพลงไทยให้ไทยฟัง
สำเนียงยังดัดจริตผิดจากไทย

กินอยู่เพื่อชีวิตต้องพิซซ่า
ไก่ทอดธรรมดากินไม่ได้
ต้องไก่ทอดยี่ห้อนอกนุ่มนอกใน
ใช้ของนอกแหมชื่นใจได้ใช้มัน

อะไรต่อมิอะไรในวันนี้
อะไรที่เป็นไทยไร้สีสัน
อะไรที่ไม่เป็นไทยให้ความสำคัญ
แล้วสักวันจะไม่เห็นความเป็นไทย

******************************

"คำบ้านคำเมือง"

คือคำบ้านคำเมืองเรื่องศาสตร์ศิลป์
คู่แผ่นดินมานานนมสมคุณค่า
สัมผัสได้ด้วยชีวิตจิตวิญญา
ถึงศาสตร์ศิลป์ของภาษาสง่างาม

คือคำบ้านคำเมืองอันเฟื่องฝัน
ที่สร้างสรรค์สืบมาภาษาสยาม
ร้อยถ้อยพันถ้อยมาร้อยความ
ให้เห็นเป็นรูปนามความเป็นไทย

คือคำบ้านคำเมืองคือเรื่องราว
ที่ยืนยาวถึงอยู่สู่สมัย
เอ่ยคำแต่ละคำสำคัญใจ
ต่างก็มิใช่ใคร ไทยด้วยกัน

คือคำบ้านคำเมืองอันเลื่องชื่อ
ว่านี่คือสื่อหัวใจไว้คงมั่น
จากอดีตยังแจ่มชัดถึงปัจจุบัน
ว่าคู่คืนคู่วันเนิ่นนานมา

คือคำบ้านคำเมืองเรื่องชีวิต
หมั่นขบคิดใคร่ครวญถ้วนทุกหน้า
ความเปลี่ยนแปลงที่เพี้ยนผิดระอิดระอา
ภาษาไทยถูกฆ่ามาจากใคร

คือคำบ้านคำเมืองประเทืองหล้า
คำมีค่าควรเมืองประเทืองสมัย
ทุกคำบ้านคำเมืองประเทืองไทย
ขอจงใส่ใจจำคำบ้านคำเมือง

*********************************
อ่านต่อ >>

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

บทกลอนอาลัยแด่อดีตครูผู้เสียสละ

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2554  ผมได้ไปร่วมงานฌาปนกิจศพ "ครูสง่า  ม่วงชุม" อายุ 88 ปีเศษ ที่วัดศาลเจ้า อ.เมือง จ.ราชบุรี สาเหตุที่ไปเพราะเป็นพ่อของเพื่อนผมเอง  ช่วงก่อนกระทำพิธัฌาปนกิจศพ พิธีกร ได้อ่านประวัติของ ครูสง่า ม่วงชุม ให้ฟัง ผมจึงทราบว่าท่านเป็นอดีตครูเก่าแก่มาก เคยสอนอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ และย้ายมากรุงเทพ พอสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ย้ายมาสมัครเป็นครูน้อยที่โรงเรียนวัดศาลเจ้า และไต่เต้าได้เป็นถึงครูใหญ่โรงเรียนวัดศาลเจ้า และครูใหญ่โรงเรียนวัดคุ้งกระถิน ท่านลาออกก่อนเกษียณมาทำสวน ดูแลบุตรธิดา และยังบวชเป็นพระ เพื่อศึกษาวิชานำมารักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ผู้คนหลายครั้งหลายตอน  ปัจจุบัน ภรรยาท่านเสียชีวิตแล้ว และบุตรธิดาจำนวน 8 คนของท่าน เสียชีวิตแล้วถึง 7 คน คงเหลือเพื่อนผมคนนี้คนเดียวที่เป็นธุระจัดงานศพให้พ่อ....

งานฌาปนกิจศพครูสง่าฯ เป็นไปอย่างเรียบง่าย...ผู้คนแลดูบางตา...มีการอ่านกลอนไว้อาลัยแด่..ครูสง่า  ม่วงชุม ซึ่ง พระทินภัทร อาภสสโร วัดศาลเจ้า ประพันธ์เป็นธรรมบรรณาการแด่ "คุณครูสง่า ม่วงชุม" และเจ้าภาพได้ถ่ายสำเนาแจกบทกลอนไว้อาลัยนี้ให้แขกที่มาร่วมงานทุกคน...พร้อมของชำร่วยเป็นกระเป๋าสตางค์เล็กๆ สีทอง

หลังจากผมได้อ่านบทกลอนไว้อาลัยฯ รู้สึกว่าอยากนำมาบันทึกและเผยแพร่ไว้ในบล็อกนี้...เพราะมีหลายตอนที่กล่าวถึงความเป็น "ครู" และ "ความมีชีวิตพอเพียง" ซึ่งอาจจะนำมาใช้เป็นแบบอย่างของครู และใช้ในการดำรงชีวิตปัจจุบันก็ได้  และอีกประการก็เพื่อเป็นเกียรติแก่ครูสง่า ม่วงชุม อดีตครูผู้เสียสละ ผู้วายชนม์ อีกทางหนึ่งตามที่เจ้าภาพอุตส่าห์ถ่ายสำเนาแจกจ่ายให้...ลองอ่านดูนะครับ

อาลัย "คุณพ่อสง่า ม่วงชุม"

กราบเท้าพ่อ น้ำตาหยด รดน้ำศพ
เมื่อยามพลบ วันฟ้าหม่น จนโหยหา
นึกไม่ถึง กาลแปรผัน วันร้างรา
ลูกหลานโศรก ร่ำหา แสนอาลัย

ต่อแต่นี้ ไม่มีแล้ว "พ่อสง่า"
ไม่มีแล้ว หมอชรา พึ่งอาศัย
ไม่มีครู ผู้อารีย์ มีน้ำใจ
พ่อสง่า จากไป ขาดร่วมโพธิ์

พ่อเคยสอน อ่านเขียน เรียนภาษา
ทั้งความรู้ นอกตำรา การต่อสู้
ฝึกลิขิต ปุจฉา ประสาครู
ทำให้ดู อยู่ให้เห็น เป็นประจำ

สร้างครอบครัว อุ่นหนา ลูกอาลัย
เลิกงานไป ไม่เสสรวล  ชวนถลำ
จับจอมเสียม เข้าสวน ชวนกันทำ
เป็นผู้นำ เป็นพ่อครู อยู่พอเพียง

จากครูน้อย คอยอบรม บ่มสอนศิษย์
ประสาทวิทย์ เด็กน้อย คอยส่งเสียง
เป็นครูใหญ่ ที่มีใจ  ไมเอนเอียง
เพื่อหวังเพียง เด็กไทย ได้เจริญ

สามสิบหกปี แห่งการอยู่ เป็นครูสอน
พ่อไม่ห่อน หลงมนต์ คนสรรเสริญ
คุ้งกระถิน ทั้งตำบล คนยลเยิน
ลูกเจริญ ได้เพราะพ่อ ก่อกรรมดี

ขอความรัก ทั้งหลาย อย่าตายจาก
ทั้งลมปาก อย่าระคาย ให้เสื่อมศรี
รักษาชื่อ พ่อไว้ ตราบนานปี
แผ่คุณงาม ความดี ของพ่อไป

กราบเท้าพ่อ น้ำตาตก วันยกศพ
หากชาติภพ มีจริง สิ่งใฝ่ฝัน
ลูกวิงวอน บวงสรวง ปวงเทพไทย
นำพ่อไป สู่สวรรค์ นิรันดร์เทอญ

**************************************
ประพันธ์เป็นธรรมบรรณาการแด่ "คุณครูสง่า  ม่วงชุม" โดย พระทินภัทร อาภสสโร วัดศาลเจ้า
เนื่องในวันฌาปนกิจศพ 19 ม.ค.2554
อ่านต่อ >>