วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

"อีศาน" บทกวีที่โดดเด่นของนายผี..อัศนี พลจันทร

บทกวี "อีศาน" เป็นบทกวีที่โดดเด่นของนายผี...อัศนี พลจันทร บรรพอัยการผู้ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ลงตีพิมพ์ในคอลัมน์ อักษราวลี น.ส.พ.สยามสมัยรายสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 เม.ย.2495 ที่กล่าวขวัญกันมาก


จิตร ภูมิศักดิ์ ในนามปากกา "สมชาย ปรีชาเจริญ" ได้เขียนบทวิจารณ์ลงในคอลัมน์ชีวิตและศิลปะใน น.ส.พ.สารเสรี เมื่อ 5-6 ปีต่อมาว่า  บนหน้าหนึ่งของประวัติวรรณคดีไทยอันจักเขียนขึ้นโดยปราชญ์แห่งประชาชนในอนาคตจักต้องจารึกไว้อย่างภาคภูมิและทระนงว่า ในวันที่ 3 เม.ย.2495 เพชรน้ำเอกของวรรณคดีประเภทกลอนของประชาชน ได้ปรากฏออกสู่สายตามวลชน เพชรน้ำเอกชิ้นนั้นก็คือ บทกลอน "อีศาน" อันเลื่องลือกำจรนามของ "มหากวีแห่งประชาชน" ผู้ใช้นามว่า "นายผี" 








































ในฟ้าบ่มีน้ำ                              ในดินซ้ำมีแต่ทราย
น้ำตาที่ตกราย                          ก็รีบซาบบ่รอซึม

แดดเปรี้ยงปานหัวแตก             แผ่นดินแยกอยู่ทึบทึม
แผ่นอกที่ครางครึม                   ขยับแยกอยู่ตาปี

มหาห้วยคือหนองหาน              ลำมูลผ่านเหมือนลำผี
ย้อมชีพ  คือ ลำชี                      อันชำแรกอยู่รีรอ

แลไปสดุ้งปราณ                        โอ้อีศาน, ฉนี้หนอ--
คิดไปในใจคอ                           บ่ค่อยดีนี้ดังฤา?

พี่น้องผู้น่ารัก                             น้ำใจจักไฉนหือ?
ยืนนิ่งบ่ติงคือ                             จะใคร่ได้อันใดมา?

เขาหาว่าโง่เง่า                          แต่เพื่อนเฮานี่แหละหนา
รักเจ้าบ่จางฮา                           แลเหตุใดมาดูแคลน--

เขาซื่อสิว่าเซ่อ                          ผู้ใดเน้อนะดีแสน
ฉลาดทานเทียมผู้แทน               ก็เห็นท่าที่กล้าโกง

กดขี่บีฑาเฮา                             ใครนะเจ้า  จงเปิดโปง
เที่ยววิ่งอยู่โทงโทง                    เทียวมาแทะให้ทรมาน

รื้อคิดยิ่งรื้อแค้น                         ละม้ายแม้นห่าสังหาร
เสียตนสิทนทาน                        ก็บ่ได้สดวกดาย

ในฟ้าบ่มีน้ำ                               ในดินซ้ำมีแต่ทราย
น้ำตาที่ตกราย                            คือเลือดหลั่ง! ลงโลมดิน

สองมือเอามีแฮง                       เสียงเฮาแย้งมีคนยิน
สงสารอีศานสิ้น                         อย่าซุด, สู้ด้วยสองแขน!

พายุยิ่งพัดอื้อ                             ราวป่าหรือราบทั้งแดน
อีศานนับแสนแสน                      สิจะพ่ายผู้ใดเหนอ?

****************************
ที่มา : ยืนหยัด  ใจสมุทร.  (2556). อัศนี  พลจันทร บรรพอัยการผู้ยึดมั่นในหลักนิติธรรม. กรุงเทพฯ : มูลนิธิอัศนี พลจันทร.
อ่านต่อ >>

วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556

เพลงประจำสโมสรราชบุรี FC "ราชันมังกร"


เพลง "ราชันมังกร"
ขับร้องโดย แอ๊ด  คาราบาว

จากดินแดนตำนานรัชกาลที่ 1 เคยเป็นเจ้าเมือง
บัดนี้สู่ความลือเลื่องกระเดื่องนาม "ราชันมังกร"
ทีมฟุตบอลของชาวราชบุรี สโมสรแห่งศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่
ด้วยน้ำใจนักกีฬาเพื่อคว้าชัย มุ่งสู่เป้าหมายบุกสู้ไม่ยอมแพ้

ชาวราชบุรีรวมใจ เราภูมิใจก้าวไปอย่างแน่วแน่
สามัคคีวันนี้ได้ผันแปร  เปลี่ยนเป็นพลังมุ่งมั่นศรัทธา
พัฒนาขึ้นชั้นระดับชาติ สร้างโอกาสให้ลูกหลานโอ่งมังกร
สู่แชมป์สโมสรฟุตบอล  ราชันมังกรต้องเป็นตำนาน

*ราชันมังกร  เข้าต่อกรด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่
ราชันมังกร  คือยอดฟุตบอลผู้ไม่ยอมแพ้ใคร
ราชันมังกร  ยิงนำไปก่อน สู่ประตูชัย
ราชันมังกร  สโมสรฟุตบอลราชบุรีรวมใจ
(ซ้ำ *)

ราชันมังกร สโมสรฟุตบอล..ชาวราชบุรีภูมิใจ

ราชบุรีเอฟซี สู่ด้วยศักดิ์ศรี เจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่
แห่งปฐมราชวงศ์จักรี ราชบุรีเอฟซี ชิงชัยมีชัย
ชิงชัยมีชัย ชิงชัย....มีชัย .....ไชโย















*******************
ที่มา : http://www.ratchaburifc.com
อ่านต่อ >>