วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

จารกลอนดอกสร้อย "ภิรมย์บุรีราช"

สมุดใบลานทำเอง : จารกลอนดอกสร้อย "ภิรมย์บุรีราช"ลงไป
ชื่อกลอน : แปลตามคำจะได้ว่า จ้าวแห่งเมืองอันภิรมย์
หรือถ้าอ่านย้อนกลับจะได้คำว่า ราชบุรีภิรมย์ แปลได้ว่า เมืองราชบุรีอันแสนรื่นรม

 
ราชเอ๋ยราชรี เคยคลุกคลีแต่เยาว์ย่ำจ้ำเดิน
เขางูอยู่ตระหง่านช้านานเทอญ แดนจำเริญศักดิ์สิทธิ์องค์พุทธา
อีกอรัญญิกามหาไสยาสน์ เด่นผงาดผุดผาดคู่ขุนผา
ทุ่งเขียวเคียงขับหมู่สกุณา เจ้าอยู่มายุคใดใครหยั่งเอย

อาเอ๋ยอาราม เขตคามบุราณทั่วถ้วนแถบ
ขรัวเหลือเหลือตระการวิหารแกลบ ปูนปั้นยลแยบโรงช้างช่ำชองศิลป์
ช่องลมก้มวันทาบูชาแก่นจันทร์ งามหน้าบันแกะฉลักอมรินทร์
หน้าพระธาตุอาจองคงกระแสสินธ์ พระปรางค์หินเขางุผินคู่ธารเอย

งามเอ๋ยงามแท้  ได้พิศแลงานเลิศวิจิตร
โอ่งดินเผาเถากระเบื้องเฟื่องทุกทิศ  ช่างประดิษฐ์เอกอุเครื่องดนตรี
ปูนแดงเลิศรสลือชื่อแต่ก่อนเก่า ทองเหลืองเขาลอยชดช้อยอร่ามศรี
เครื่องบ้านอุดมงานจักสานดี ผ้าทอมากมีสืบสานถิ่นนี้เอย

 
แม่เอ๋ยแม่กลอง ข้าเหม่อมองผองชนข้ามขึ้นลง
คนนั่งยิ้มให้คนเรือยิ้มส่ง ใคร่ให้อยู่ยงคงไปในยุคอื่น
ผ่านย่านริมน้ำคลาคล่ำคึกคัก วิ่งเล่นพักริมแม่กลองแสนสดชื่น
สองฟากน้ำสบยิ้มกันนานวันคืน ขอตื่นหลับเป็นคนมณฑลนี้เอย


*****************************************************
ผู้จารและประพันธ์ Horsupawut Jantasaro
facebook :
http://www.facebook.com/horsupawut.jantasaro
Blog : http://horsupawut.exteen.com/
อ่านต่อ >>

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บทกวีถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ของชาวราชบุรี (12 ส.ค.2554)

เฉลิมพระชนมพรรษาสิงหามาส         เหล่าปวงราษฎร์น้อมใจไทยทั้งผอง
แด่ราชินีคู่ธานินทร์แผ่นดินทอง         ต่างแซ่ซ้องน้อมสิระสดุดี

พระแม่ผู้สถิตในดวงใจราษฎร์            ก้าวพระบาทนำพาไทยในวิถี
พระแม่ผู้สง่าองค์คงความดี                แม่ผู้มีสิริงามด้วยน้ำพระทัย

ทรงบำรุงศาสตร์ศิลป์ถิ่นสยาม           ชนทั่วโลกลือนามความยิ่งใหญ่
ทรงเป็นฝนเคียงฟ้าคู่ป่าไพร               ปวงข้าไทยปิติใจในธานี

เฉลิมพระชนมพรรษาสิงหาศก           เหล่าพสกนิกรน้อมเกศี
ประณตน้อมพร้อมพักตร์ด้วยภักดี      แด่ราชินี ขอพระองค์ทรงพระเจริษ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
นายสุเทพ-นางกรองกาญจน์ โกมลภมร 
ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดราชบุรี
พร้อมพสกนิกรจังหวัดราชบุรี

*********************************

พระมิ่งแม่ชนนีศรีประเทศ                 ทรงปกเกศโปรดเกล้าชาวสยาม
ทรงส่งเสริมงานฝีมือให้ลือนาม        เป็นศาสตร์งามศิลปาชีพไทย

ศรีศรีเฉลิมขวัญวันเฉลิม                   ศิริเฉลิมผ่องผุดพิสุทธิ์ใส
ทรงพระเจริญด้วยพระพลานามัย       ถวายจตุรพิธพรชัย ฑีฆายุกา

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
นายวันชัย   ธีระสัตยกุล
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี
พร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี
ข้าราชการ  พนักงานและลูกจ้างในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี

*************************************************

ลุสิบสองสิงหาประชาปิติ                  เฉลิมศิริเฉลิมพระชนม์มงคลสมัย
สมเด็จพระราชินีศรีไผท                    พระทรงเป็นศูนย์รวมใจไทยประชา

โครงการพระราชดำริทรงริเริ่ม           ช่วยสร้างเสริมทวยราษฎร์สุขแลหรรษา
น้ำพระทัยเปี่ยมด้วยพระกรุณา            ศิลปาชีพสืบสานงานแผ่นดิน

อนุรักษ์พันธุ์พฤกษาป่ารักน้ำ              พลิกดินฉ่ำป่าฟื้นคืนกลับสิ้น
เย็นใต้ร่มพระบารมีสุขชีวิน                 ทุกทิศถิ่นแซ่ซร้องสดุดี

น้อมศิระใต้เบื้องยุคลบาท                  อภิวาทถวายบังคมก้มเกศี
อัญเชิญเทพศักดิ์สิทธิ์ทั่วธาตรี           อภิบาลราชินีศรีไผท

ขอองค์สุขเกษมสิริสวัสดิ์                   เป็นร่มฉัตรโพธิ์ทองผุดผ่องใส
เป็นมิ่งขวัญพสกนิกรไทย                   เคียงคู่องค์ภูวไนยภูมพล

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
นางศมานันท์  เหล่าวณิชวิศิษฎ
นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี
พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล พนักงาน ลูกจ้าง และพนักงานจ้าง
เทศบาลเมืองราชบุรี

*********************************************

พระมิ่งพระแม่ฟ้า                                 ของเหล่าข้าฯ ประชาไทย
ฌแลิมพระชนม์สมัย                            คู่บุญนฤบดี
ทรงเมตตาอาทร                                  ราษฎรจึงสุขศรี
เสด็จถึงทุกที่                                        ถิ่นแร้นแค้นแดนพนา

แหล่งใดไร้ทำกิน                                 ทรงชูศิลป์ภูมิปัญญา
โลกล้วนประจักษ์ตา                            ศิลปาชีพวิไล
ร้อยกรองกราบเบื้องบาท                     อาศิรวาทถวายชัย
น้อมเกล้าน้อมดวงใจ                          มิ่งแม่ไทยทรงพระเจริญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม  ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
นายแพทย์บุญเรียง   ชูชัยแสงรัตน์
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี
และคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี

****************************************** 

สิบสองสิงหาอาศิรวาท                       ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา
พระแม่หลวงของปวงไทยในอาณา     ชาวประชาแซ่ซ้องสดุดี
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน    ทรงพระสำราญเกษมศรี
ฑีฆายุกาโหตุมหาราชินี                       พระบารมีแผ่ไพศาลนิรันดร

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
น.ส.พัชรี   พงษ์พิทักษ์
พาณิชย์จังหวัดราชบุรี
ข้าราชการและลูกจ้าง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดราชบุรี

******************************************

12 สิงหารวมแซ่ซ้อง                 สรรเสริญ
ราษฎร์นบกรอัญเชิญ                 ทั่วหล้า
น้อมศิระเทิดพระคุณ                 ล้นฟ้า
เกศก้มกราบมโนน้อม                พร้อมภักดิ์แทนคุณ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
น.ส.ปัทมพร    ผุดเพชรแก้ว
จัดหางานจังหวัดราชบุรี
และคณะข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดราชบุรี

***************************************** 

วันเฉลิมจอมขวัญองค์ราชินี
พระทรงศรีเจริญพระชนมพรรษา
ขอพระองค์ทรงเกษมเปรมปรีดา
เหล่าประชาเทิดพระองค์ ทรงพระเจริญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
นายชัชวาล    ร่มโพธิ์ทอง
ผู้อำนวยการโรงเรียนสุริยวงศ์
และคณะผู้บริหาร ครู และนักเรียนโรงเรียนสุริยวงศ์

************************************************

12 สิงหา ประชาราษฎร์
ต่างแซ่ซ้องอภิวาทบทศรี
ทรงพระเจริญหรรษาด้วยบารมี
แด่สมเด็จ "ราชินี"  ศรีสยาม

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม  ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
คณะผู้บริหาร ครู และนักเรียนโรงเรียนนารีวิทยา

*************************************************

12 สิงหาศุภวารมาบรรจบ
ราชสมภพราชินีศรีสยาม
ธ ทรงเป็นแม่ฟ้าทุกเขตคาม
จริยวัตรงดงามน้ำพระทัย

ด้วยเศียรเกล้าน้อมนบบาทบงค์
พระมิ่งขวัญปวงชนทรงสมัย
ขอพระองค์สฤษดิ์ดังพระพฤหัย
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ถวายพรชัยสดุดี

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
คณะผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่
โรงพยาบาลเมืองราช จังหวัดราชบุรี

****************************************

วันที่ 12 สิงหาฯ ข้าพระพุทธเจ้า
ร่วมน้อมเกล้าถวายพระพรให้สุขศานต์
ให้จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
เป็นร่มโพธิ์แด่ลูกหลานประชาไทย

ทรงร้อยใจไทยทุกถิ่นให้สิ้นทุกข์
นำความสุขปลุกสำนึกจากหลับไหล
ศิลปาชีพชุบอาชีพทั่วถิ่นไทย
ผ้าไหมไทยเลื่องลือไกลไปต่างแดน

พระเมตตาดุจน้ำใสไหลไม่สิ้น
ทาแผ่นดินให้ชุ่มชื่นร่มรื่นแสน
ไทยอยู่ดีมีพระองค์ทรงเป็นแกน
หลักแน่นแฟ้นแก่นกลางใจไทยทุกดวง

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
นายสุธีร์   เล้าศศิวัฒนพงษ์
สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี

******************************************

ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท
องค์ราชินีนาถชาติสยาม
พระชนม์มิ่งเจ็ดสิบเก้าเรืองพระนาม
ทุกเขตขามน้อมนพสดุดี

ด้วยเดชะบารมีมณีรัตน์
ดลพิพัฒน์พระแม่ฟ้าให้สุขศรี
ทศพรองค์เจ้าไตรมณี
สดุดีขอองค์ทรงพระเจริญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม  ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
คณะผู้บริหารและพนักงาน
บริษัท หัวช้างเอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด

********************************************

หมายเหตุ : คัดเลือกมาจากหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมถวายพระพรในสื่อต่างๆ ของบริษัท หัวช้างเอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด (HCTV)

ดูคลิบวีดีโอ
อ่านต่อ >>

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บทกลอน "คนงามบ้านโป่ง"

แต่โบราณนานมาเขาพาที              ว่ามากมีสาวสคราญที่บ้านโป่ง
คนในยุคปัจจุบันจึงจรรโลง             ให้เชื่อมโยงตามวาจาที่พาที

คนทั่วไปลือนามว่างามแล้ว            ต้องยึดแนวความรักในศักดิ์ศรี
ชาวบ้านโป่งจึงกระทำแต่กรรมดี      เพื่อช่วยชี้เสริมคำให้กำจาย

วาจางามยามมีวจีเอื้อ                     คารมเจือหวานหูมิรู้หาย
น้ำใจงามรักความจริงทั้งหญิงชาย  มุ่งค้าขายหมายมีไมตรีกัน

เรือนร่างงามยามเห็นเป็นบุญตา      รู้รักษาอนามัยไม่แปรผัน
กิริยางดงามนิยามนั้น                      ล้วนสร้างสรรค์ส่งผลให้คนงาม

อันคนงามงามน้ำใจใช่ใบหน้า        พูดกันมานานแล้วน้องอย่ามองข้าม
คนบ้านโป่งขึ้นชื่อถูกลือนาม          นับเป็นความภูมิใจในคำนี้

ที่บ้านโป่งมีผ้าลายน่าซื้อ               คนร่ำลือทันยุคกว่าทุกที่
เหล่าแพรพรรณหลากหลายจึงขายดี       ปวงสตรีมาชุมนุมซื้อคลุมกาย

อันไก่งามเพราะขนที่ล้นหลาม       ส่วนคนงามเพราะแต่งชี้แจงง่าย
เชิญมาชมคนงามยามเอียงอาย     มาจับจ่ายแพรพรรณเภิดขวัญตา

**************************************
ผู้ประพันธ์ : ศรีวิชัย  ทรงสุวรรณ

ที่มา :
ศรีวิชัย ทรงสุวรรณ. (2541). แววรุ้งที่ราชบุรี. ราชบุรี : ธรรมรักษ์การพิมพ์. (หน้า 109). (ดูภาพหนังสือ)
อ่านต่อ >>

วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บทกลอน "มีคนสวยโพธาราม"

ท่านผู้เฒ่าเล่าความว่ายามก่อน                มีชาวมอญส่วนมากจากพม่า
มาตั้งฐานบ้านเรือนอยู่เกลื่อนตา              อยู่ตรงบ้านสร้อยฟ้าเวลานี้

แม่หญิงมอญอ่อนหวานยามขานไข         ประทับใจเพื่อนพ้องและน้องพี่
ผิวพม่านัยน์ตาดำคมขำดี                         จึงเกิดมีคำนิยมชื่นชมนาง

โอ้คนสวยโพธารามข้อความนี้                คือศักดิ์ศรีที่ดำรงเป็นวงกว้าง
คนท้องที่ทั่วไปไม่อำพราง                      ยึดแบบอย่างร่วมกันทุกวันมา

ที่หนองอ้อก็เป็นฐานของบ้านมอญ         ต่างสัญจรไปประสบเพื่อคบหา
มอญหนองอ้อกับมอญบ้านสร้อยฟ้า       ถูกคงคาขวางไว้มิใกล้กัน

ประเพณีสงกรานต์สองบ้านนี้                  มีทุกปีล้วนสนุกสบสุขสันต์
การละเล่นพื้นเมืองเรื่องสำคัญ                เชื่อมสัมพันธ์เชื่อมรักสามัคคี

การประกวดธิดามอญกระฉ่อนชื่อ           คนเลื่องลือว่าสวยด้วยศักดิ์ศรี
กิจกรรมเสริมเสน่ห์ประเพณี                    เสริมเสน่ห์ราชบุรีทุกวี่วัน

***********************************
ผู้ประพันธ์ : ศรีวิชัย   ทรงสุวรรณ

ที่มา :
ศรีวิชัย ทรงสุวรรณ. (2541). แววรุ้งที่ราชบุรี. ราชบุรี : ธรรมรักษ์การพิมพ์. (หน้า 108). (ดูภาพหนังสือ)
อ่านต่อ >>

บทกลอน "เมืองปฐมบรมวงศ์จักรี"






















เขาแก่นจันทน์นั้นสูงไม่เสียดฟ้า         แต่เวลาขึ้นไปแล้วใจหวิว
ยอดสนโอนเอนร่ายเป็นรายริ้ว           แลลิบลิ่วชวนผวาทุกคราไป

ยอดเขานี้มีศาลาจตุรมุข                    จะเปี่ยมสุขเมื่อมาพักอาศัย
มี "พระสี่มุมเมือง" ประเทืองใจ        ประทับในศาลามานานเนา

พระบรมราชานุสาวรีย์                        ประทับยืนอยู่ที่ใกล้เชิงเขา
สง่างามนามประเทืองคู่เมืองเรา        เชิญคุณเข้ากราบไว้อย่างใกล้ชิด

คือปฐมบรมราชานุสรณ์                     ปางเมื่อตอนพระองค์นั้นทรงสิทธิ์
เป็นหลวงยกกระบัตรเมืองผู้เรืองฤทธิ์         ประกอบกิจราชการอยู่นานปี

เมื่อจากเมืองราชบุรีก็มีค่า                  ทรงปราบดาเป็นกษัตริย์สูงศักดิ์ศรี
เป็นปฐมบรมวงศ์จักรี                         นามภูมีพระพุทธยอดฟ้าฯ

อันชาวเมืองราชบุรีวันนี้นั้น               ต่างช่วยกันพิทักษ์เฝ้ารักษา
ชาวเมืองอื่นที่ได้ผ่านไปมา              ล้วนศรัทธาในเดชะบารมี

วันที่หกเมษามหาฤกษ์                     จะเชิญพราหมณ์มาเบิกพุ่มบายศรี
ข้าราชการพ่อค้าประชาชี                 ถวายราชสดุดีด้วยดวงใจ

ลานพระบรมราชานุสาวรีย์               จัดให้มีงานฉลองที่ยิ่งใหญ่
กิจกรรมหลายอย่างแตกต่างไป        สืบสานไว้เป็นกิจกรรมประจำเมือง


**********************************************
ผู้ประพันธ์ : ศรีวิชัย    ทรงสุวรรณ

ที่มา :
ศรีวิชัย  ทรงสุวรรณ. (2541).  แววรุ้งที่ราชบุรี. ราชบุรี : ธรรมรักษ์การพิมพ์. (หน้า 107).  (ดูภาพหนังสือ)
อ่านต่อ >>

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บทกลอน "หอมแป้งร่ำที่ดำเนิน"

มาดำเนินวันนี้ไม่มีน้อง
สองฟากคลองเหงาหงอยพลอยใจหาย
มีแต่เรือลำเก่าที่เจ้าพาย
ไม่เห็นกายเพื่อนเก่าของเราแล้ว

เรือลำเดียวลำเดิมเริ่มจะเก่า
กลับมาเอาชันยาเถิดหนาแก้ว
อย่าทิ้งเรือให้แยกแตกเป็นแนว
เดี๋ยวจะแจวหากินไม่สิ้นปี

เคยเป็นเพื่อนเหมือนพี่ได้ปีกว่า
เจ้าก็มาหลบหายคิดหน่ายหนี
หากน้อยใจใครทำช้ำฤาดี
ยังมีพี่ที่ยังคอยอย่าน้อยใจ

ท้องร่องที่มีเผือกให้เลือกขุด
พร้อมถั่วคุดและมะม่วงพวงใหญ่ใหญ่
อีกพริกหอมและกระเทียมแห้งเกรียมไป
ไม่มีใครดูแลนะแม่คุณ

หรือกระท่อมหลังเก่าเสามันกร่อน
เจ้าหลับนอนอย่างไรไม่อบอุ่น
หรือพี่น้องคนไหนไม่การุณ
เจ้าจึงวุ่นวายใจไปเมืองกรุง

หากเจ้าอยู่แห่งไหนในเมืองฟ้า
ขอโปรดอย่าลืมดินลืมซิ่นถุง
กลับมาใช้แป้งร่ำน้ำอบปรุง
อย่าไปยุ่งเครื่องสำอางอย่างเขาเลย

********************************
ผู้ประพันธ์ ศรีวิชัย  ทรงสุวรรณ ตีพิมพ์ในนิตยสารศรีสยาม

ที่มาข้อมูล
ศรีวิชัย  ทรงสุวรรณ. (2541). แววรุ้งที่ราชบุรี.  ราชบุรี : ธรรมรักษ์การพิมพ์. (หน้า 90) (ดูภาพหนังสือ)
อ่านต่อ >>

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เพลงฉ่อยนำชมเมืองราชบุรี ตอนที่ 3

ต่อจาก เพลงฉ่อยนำชมเมืองราชบุรี ตอนที่ 2


ถ้ำจอมพล
ฉันชวนเที่ยวถ้ำเสียจนย่ำแย่   อยากจะพัยนอนแผ่กลางวงไพ่


(เจรจา)
  • เอ๊  ชมถ้ำอยู่ดีๆ  ไหงผ่าเข้าไปนอนกลางวงไพ่
  • ร้องส่งๆ ไปยังงั้นเอง พอให้เข้าสัมผัส
  • อ้าว  เอาที่มันเข้าเรื่องกันหน่อยซี
ฉันชวนเที่ยวชมถ้ำเสียจนย่ำแย่   อยากจะนอนพับแผ่ข้างกองไผ่
ท่านจะเที่ยวชมถ้ำจำเอาไว้ก่อน   ท่านไม่เดินกลับย้อนก็ยังออกได้
เพราะทางเดินตีโค้งเป็นวงรอบ   ซ้ำยังมีแนวขอบเหมือนกับรูปไข่
กว่าจะเที่ยวได้ทั่วไปทุกถ้ำโถง    เกือบจะหมดชั่วโมงยังอยากจะดูใหม่
นอกจากถ้ำเขาบินยังมีชิ้นต้น    ชื่อว่าถ้ำจอมพลท่านคงจำได้
อยู่อำเภอจอมบึงถ้าไปถึงที่นั่น   ถ้าไม่ได้เข้าก็แปลว่าท่านไม่ถึงไหน
พระพุทธเจ้าหลวงท่านดั้นเสด็จ   มาทรงพบเอาเพชรเม็ดงามใหญ่
มีหินย้อยเหมือนอินธนูอยู่บนบ่า  ของท่านายพลเจ้าพระยาเต็มยศใหญ่
จึงเรียกว่าถ้ำจอมพลอันเป็นต้นเหตุ  ถ้าไปเที่ยวแล้วสังเกตุจะเห็นได้
ขอเชิญท่านชมถ้ำเห็นเป็นลำปล่อง   ซ้ำมีแสงสาดส่องดูช่างสดใส
มีพระพุทธปฏิมาไว้สักการะ  ฉันขอพรคุณพระคุ้มภัยให้
ดูข้างในแล้วเชิญออกไปข้างนอกหน่อย   ไปเลี้ยงลิงให้อร่อยบ้างเป็นไร

(รับ)

ชมลิง
พูดถึงลิงที่นี่เขามีเยอะ   ทั้งลิงโซลิงเซอะลิงหน้าใส
บ้างก็เดินลากหางบ้างก็หาเหา   บ้างก็แกะบ้างก็เกาทำเป็นเก๋ไก๋
บ้างก็อุ้มลูกอ่อนนอนแอบอก   บ้างก็นั่งหลับนกทำเป็นเหนื่อยหน่าย
แต่พอเห็นของกินแลบลิ้นหลอก  ไอ้ที่มีเปลือกรู้จักปลอกเอามากินได้
ไอ้ตัวตะกละฉะกล้วยไว้ทั้งสองแก้ม  ซ้ำยังอุ้มเอาไว้แอ้มสองลูกใหญ่
ที่ตัวเล็กคอยแต่หลบไม่ค่อยพบลาภ   ไอ้ตัวงกฉกไปงาบเอาเสียง่ายง่าย
ไอ้บ้างก็โลนจริงๆ ทำเป็นลิงล้อ   ทำยักคิ้วเกาคอบางทีก็เกาไข่
ถ้าถือของอยู่ในมือบางทีก็ยื้อแย่ง   ถ้าท่านมีของแพงๆ ละก็อย่าเผลอไผล
ถ้าเป็นคุณผู้หญิงต้องยิ่งระวังหนัก   อย่าให้มันล้วงของรัก  ที่ข้างใน

(รับ)

ธารน้ำร้อน-แก่งส้มแมว-โป่งยุบ
ราชบุรีบ้านเรามีทั้งเขามีทั้งป่า   ยังไม่ถูกคนบ้าเข้ามาบ่อนไส้
ธรรมชาติน่าชมยังมีถมถืด   อย่าเข้าไปทำให้มันจืดนะจะเข้าใจไหม
อย่าไปขุดอย่าไปค้นอย่าไปโค่นอย่าไปถาง   อย่าไปหักอย่าไปร้างสร้างของใหม่
เข้าไปทางสวนผึ้งท่านต้องถึงแน่  มีทั้งธารน้ำแร่ธารน้ำไหล
พอไปถึงธารน้ำร้อนขอเชิญท่านนอนอาบ  อะไรที่เขลอะเป็นคราบคงค่อยคลายหาย
ยังมีแก่งส้มแมวของเราก็แจ๋วจ้า  มีน้ำใสไหลซ่าอยู่ทั้งขวาซ้าย
ถ้าท่านรู้สึกร้อนๆ ของเชิญไปผ่อนพัก   ที่งานเหนื่อยงานหนักคงจะเบาได้
ส่วนที่มีชื่อโด่งดังนั่นคือโป่งยุบ   เขาว่าตรงพื้นมันผลุบลงไปต่ำใต้
เกิดเป็นเสาเป็นซอกมีทั้งตรอกโตรก  บ้างเป็นแง่ชะโงกดูช่างแหงนหงาย
ธรรมชาติตลกจึงมาตกหล่น   ไม่ใช่ฝีมือของคนหรอกนะจะบอกให้
ที่เป็นฝีมือมนุษย์นั้นสุดแสนเศร้า  ที่ยังไม่เน่าทำให้เน่า นั่นแหละนาย

(รับ)

เชิญชวนมาเที่ยวเมืองราช
ฉันพาลุยเมืองราชมาจนครบรอบ    หวังว่าผู้ชมคงจะชอบกันอยู่พอใช้
มีของดีน่าดูอยู่อีกเยอะ   ขอเชิญไปเที่ยวกันเถอะฉันจะบอกให้
จะไปมาก็สะดวกไปเสียทุกด้าน   มีทางลัดตัดผ่านไปตั้งหลายสาย
ทั้งอาหารการกินถูกลิ้นหมด   เช่นปลายี่สกเลิศรสอุ๊ยน้ำลายไหล
บ้านโป่งคนงาม โพธารามคนสวย   บางแพคนรวย ดำเนินน้ำไหล
วัดเพลงรูปหล่อ ปากท่อใจถึง   หน้าบานจอมบึง สวนผึ้งชาวไร่
อำเภอเมืองคนดีราชบุรีแท้    ที่ไหนๆ เขาว่าแน่ นี่แน่กว่าไหนไหน
ท่านจะไปพักหรือจะผ่านไปทางบ้านฉัน  จะอยู่สักวันสองวันฉันก็รับไหว

(เจรจา)
  • รูปร่างขนาดนี้จะรับไหวหรือ?
  • ทำไมละ
  • หนักใจแทน
ทั้งที่เที่ยวที่กินไม่มีสิ้นสุด   จะลองชิมสักชุดฉันว่าพอใช้
ขอให้เที่ยวกันสนุกกันทุกๆ ท่าน   ถ้ายังคิดถึงกันเชิญมาเที่ยวใหม่
ที่ของดีจงประทับกับดวงจิต   แต่ส่วนที่พลาดพลั้งผิดท่านจงทิ้งไว้
เพียวท่านชอบขอบคุณไม่มีขุ่นข้อง   ยิ้มสักนิดฝากน้อง ให้ชื่นใจ

อวยพร
ขอให้คุณพระคุ้มครองท่านให้ผ่องผุด   ขอให้มีสุขสุดล้วนแต่สดใส
ชื่อว่าพาลแล้วอย่าพบขอให้พบพระ   ท่านที่ถือธรรมะขอให้ชนะใส
ถึงไม่รวยทุกคนขออย่าให้จนทรัพย์   เวลาตื่นขอให้อย่าให้หลับอย่าให้หลงไหล
ท่านที่ฟังฉันร้องแม้นยังข้องจิต   ที่เบาหน่อยหนักนิดผิดเผลอไผล
ฉันขอกราบขออภัยไว้เสียด้วย   สุ้มเสียงฉันไม่สวยหรือไม่สดใส
ฉันไม่ใช่มืออาชีพไม่ค่อยรู้เช่น   แค่เป็นมือสมัครเล่นยังไม่ลื่นไหล
ฉันเป็นเพลงฉ่อยรับเชิญเงินฉันไม่แตะ  แต่ถ้าเจ้าภาพมีแยะก็พอรับไหว
ขอจบลาจากฝากไว้เท่านี้   ขอให้ท่านสวัสดีมีชัย

เอ่ชา  ช้า ชา ฉ่าชา นอยแม่


**********************************************

ที่มาข้อมูล
คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดทำหนังสือ เรื่อง "วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์ และภูมิปัญญา". (2543). หนังสือวัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดราชบุรี. กรมศิลปากร : องค์การค้าของคุรุสภา. (หน้า 256-262) (ดูภาพหนังสือ)
อ่านต่อ >>

เพลงฉ่อยนำชมเมืองราชบุรี ตอนที่ 2

ต่อจาก เพลงฉ่อยนำชมเมืองราชบุรี  ตอนที่ 1


วัดมหาธาตุ
ไปดูพระปรางค์สร้างไว้ในสมัยขอม  มีกำแพงแลงล้อมสูงท่วมไหล่
อยู่ที่วัดมหาธาตุบ้านท่าเสา  มีพระธาตุของเก่าท่านรักษาไว้
ปูนปั้นที่พระปรางค์นั้นเป็นอย่างเอก   เหมือนสวรรค์ท่านเสกฝีมือใส่
ทำเป็นกลีบเป็นกาบคาบก้านกิ่ง   มีรูปยักษ์ยืนพงถือตะพดใหญ่


(เจรจา)
  • เฮ้ย ยักษ์รุ่นไหนนะถือตะพด
  • ยักษ์รุ่นใหม่ สมัยไฮเทค
  • ยักษ์เขาไม่ถือตะพดกันหรอก  ต้องถือตะบอง
  • อ้อ ถือตะบองก็ตะบอง
ปั้นเป็นกลีบเป็นกาบคาบก้านกิ่ง  มีรูปยักษ์ยืนพิงถือตะบองใหญ่
เทวดายืนดั้นอยู่ตามชั้นฉาก   ปั้นเป็นเรื่องหลากๆ น่าหลงใหล
มีปรางค์ใหญ่อยู่ตรงกลางแล้วมีปรางค์ทิศ    ขั้นบันไดท่านประดิษฐ์ขึ้นไปดูได้
มีจิตกรรมฝาผนังในพระปรางค์ด้วย   ยังพอเห็นสีสวยน่าเลื่อมใส
จะไหว้หลวงพ่อพันปีต้องที่นี่แน่  ท่านเป็นพระเก่าแก่อยู่ในปรางค์ใหญ่
องค์พระปรางค์เขาเล่าว่าไม่มีเงาตก  จะเป็นจริงหรือโกหกอย่างได้สงสัย
ถ้าเมฆทึบฟ้าเทาละไม่มีเงาแน่  แต่ถ้าวันไหนแดดแจ๋ ก็จนใจ


(รับ)


ตลาดน้ำดำเนิน
อยากจะเที่ยวดำเนินฉันขอเชิญเที่ยว   รถวิ่งประเดี๋ยวเดียวเลี้ยวจอดป้าย
อย่ามัวเดินนวยนาดชมตลาดน้ำ   ต้องหาเรือเข้าสักลำลงน้ำไหล
ค่อยๆ พายเลาะลัดตัดเข้าคลอง  แต่พอได้ยินเสียงร้องฉันก็จำได้
โน่นน่ะเรือป้าผายแกมาขายผัก   ลำนั้นเรือพ่อดอกรักขายปลาไหล
นี่เรือยายพร้อมขายมะพร้าวกับมะนาวนึ่ง   นั่นแน่ะเรือลุงผึ่งขายหน่อไม้ไผ่
ทั้งเรือก๋วยเตี๋ยวกาแฟจอแจจอด   ลำนั้นน่ะขายหอยทอดตัวใหญ่ใหญ่
นั่นเรือกะปิน้ำปลามากันครบ  บ้างก็ร้องขายกบ บ้างก็ขายไก่
แขกฝรั่งลงเรือกันออกเหลือหลาม   เขามาดูตลาดน้ำกันเป็นไหนไหน
เขามาดูของเรากันตั้งเท่านี้   ก็เพราะเรามีของดีให้เขาดูได้
จะดูเขาหรือดูเราเดายังไม่ออก   อยากจะดูข้างนอกหรือข้างใน


(รับ)


ค้างคาวร้อยล้าน
ถ้าอยากจะดูค้างคาวราวสักร้อยล้าน  ต้องไปที่เขาช่องพรานไม่ใช่บ้านไหน
อยู่ริมๆ โพธารามถามเขาไปเถอะ   ถ้าเจอวัดแล้วเป็นต้องเจอะเพราะอยู่ใกล้ๆ  
กะพอค่ำย่ำสนธยาก็ไปถึงหน้าวัด   มีของกินแก้ขัดเขามาวางขาย
มีประชามาประชุมกันเป็นกลุ่มก้อน   บ้างก็นั่งบ้างก็นอนไม่ได้หนีหน่าย
พอได้เวลาหากินออกจากถิ่นถ้ำ   ตัวหัวหน้าบินนำออกเป็นลำใหญ่
ทีละร้อยสองร้อยมันทยอยออก   เห็นเป็นลำเป็นระลอกเหมือนกับน้ำไหล
เป็นชั่วโมงชั่วโมงยังไม่ออกหมด   ถ้าจะเอากระแช่มานั่งซดคงหมดไปหลายไห
บ้างสงสัยใคร่จะดูให้มันรู้สิ้น  ไม่รู้ว่าหากินกันถึงถิ่นไหน
พอเช้ามืดมันก็กลับคนละหนับคนละหนุบ  เดี๋ยวก็ผลุบเดี๋ยวก็ผลุกเข้าถ้ำไป

(รับ)

วัดขนอนหนังใหญ่

(เจรจา)
  • รู้จักวัดขนอนไหม?
  • รู้จักแต่วัดขนุน
ใครไม่รู้จักวัดขนอนฉันไม่ค่อนว่า   ถ้าหากไม่ใช่คนบ้าก็คงเป็นใบ้

(เจรจา)  ไม่หนักไปหน่อยรึ วัดขนอนมีอะไรดีนักหรือ?

วัดขนอนอยู่ในเขตโพธาราม  ที่นับว่ายอดในสยามนั้นคือหนังใหญ่
เป็นศิลปะโบราณอยู่ในย่านนี้   มีตัวหนังดีๆ ท่านรักษาไว้
ทั้งเครื่องเล่นพร้อมสรรพสำรับล้วน   ยังมีแบบกระบวนมิได้เบี่ยงบ่าย
ทั้งคนเชิดท่านก็หัดเป็นบรรทัดฐาน   กว่าจะได้ออกงานไม่ใช่ของง่าย
ทุกวันนี้มีแต่หนังของพวกต่างด้าว   เข้ามาปล้นกระเป๋าเราไปเท่าไร
แต่หนังใหญ่ไทยดูบอกว่าไม่รู้เรื่อง   จะลืมบ้านลืมเมืองกันไปถึงไหน
ที่เป็นไทยแท้ๆ ดูเหมือนจะแพ้เรียบ  เราจึงกรอบเป็นข้าวเกรียบเหมือนกับลูกไก่
ฉันเคยดูหนังวัดขนอนแล้วถอนใจเฮือก

(เจรจา)
  • ถอนใจเฮือกเลยเชียวรึ
  • ใช่
  • ทำไมละ?
                                                    เพราะเห็นฝรั่งตาเหลือกว่าเวอรี่ไนซ์

(รับ)

ถ้ำเขาบิน
ถ้าอยากดูของดีฉันก็มีถ้ำ

(เจรจา) แต่ถ้าเป็นผู้ชายร้องตัดบทเจรจาออกไป
  • อ๋อ ฉันไม่เคยสงสัยเลย เธอกต้องมีถ้ำแน่ๆ
  • เคยเก็นแล้วรึ ถ้ำฉันนะ
  • ไม่เคย
  • ภ้าไม่เคยก็ควรจะเห็นไว้เป็นบุญตา
ถ้าอยากจะดูของดีฉันก็มีถ้ำ    พูดถึงสวยไม่มีซ้ำกับที่ไหนไหน
ชื่อว่าถ้ำเขาบินคนในถิ่นนี้     เขาว่ายังงี้  ยังงี้ ยกนิ้วให้ (ทำมือประกอบ)
อยู่ทางจะไปจอมบึงแต่ยังไม่ถึงดอก   ท่านจะเห็นป้ายบอกที่เขาปักไว้
เขาเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเลี้ยวเข้าไปเถิด   วันไหนๆ เขาก็เปิดเข้าไปดูได้
แต่ท่านต้องเสียค่าเข้าให้แก่เขามั่ง   พอเป็นค่าแสงสว่างที่เขาติดไว้
เพราะเขาประดับสีแสงไว้ทุกแห่งห้อง   บ้างเป็นฉากบ้างเป็นช่องชวนเฉไฉ
ตรงไหนสลับสลัวมืดมัวมั่ง   เขาก็เอาไฟเข้าไปฝังดูกันขวักไขว่
บ้างเป็นปล่องส่องไฟดูเหมือนสายรุ้ง    บ้างก็โพลงบ้างก็พลุ่งเหมือนกับลำไผ่
บ้างก็หลบเข้าในหลืบทำเป็นลุ่มลาด   บ้างเป็นร่องประหลาดมีน้ำไหล
บ้างก็หยาดเหมือนจะเยิ้มดูช่างหยดย้อย  บ้างเป็นยอดย่อยๆ บ้างก็ยอดใหญ่
บ้างเป็นจีบระบายเหมือนชายผ้า   บ้างดูเหมือนม่านหางม้าเหมือนกับผ้าไหม
บ้างก็ชื้นบ้างก็ฉ่ำบ้างก็แฉะ   บ้างก็เบี้ยวบ้างก็แบะเหมือนกับบอกใบ้
บ้างเป็นโพรงหินแตกเหมือนกับถูกต่อย   เอาโผล่เข้าไปหน่อยก็พอดูได้
บ้างก็ลาดดูเลื่อมยังมีรอยลู่   เหมือนตัวอะไรไม่รู้มันมาถูไถ
บ้างก็ยื่นออกเป็นยอดยังมีน้ำหยด    มีรอยหักไม่ยักหดยังคงงอกได้
ไอ้บางยอดมันก็ยื่นเสียจนยานย้วย   ดูไกลๆ คล้ายกล้วยแต่ไม่ยักใช่
มีถ้ำเล็กซ่อนถ้ำอยู่ในถ้ำลึก   แต่ต้องไปดูตอนดึกจึงจะดูได้

(ผู้ชายร้อง)  ไอ้ที่มีหญ้ารกมากขึ้นอยู่ปากถ้ำ  ฉันเกือบเอาคอเข้าไปตำต๊กใจ (รับ)
(ผู้หญิงร้อง) ไอ้ที่มีหญ้ายอดโยนขึ้นอยู่โคนถ้ำ  พอฉันเอามือเข้าไปคลำต๊กใจ (รับ)


อ่านต่อ เพลงฉ่อยนำชมเมืองราชบุรี ตอนที่ 3


****************************************************

ที่มาข้อมูล
คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดทำหนังสือ เรื่อง "วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์ และภูมิปัญญา". (2543). หนังสือวัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดราชบุรี. กรมศิลปากร : องค์การค้าของคุรุสภา. (หน้า 256-262) (ดูภาพหนังสือ)
อ่านต่อ >>

เพลงฉ่อยนำชมเมืองราชบุรี ตอนที่ 1

เพลงฉ่อยนำชมเมืองราชบุรี นี้ ประพันธ์โดย นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย (ดูรายละเอียดประวัติ) ซึ่งผมอ่านพบในหนังสือ "วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา ของจังหวัดราชบุรี" ในหัวข้อเรื่องภาษาและวรรณกรรม ซึ่งจัดพิมพ์และเผยแพร่โดยกรมศิลปากร เมื่อ พ.ศ.2543 เลยคัดลอกนำมาบันทึกไว้ในบล็อกนี้ อีกทางหนึ่งเพื่อจะได้ช่วยกันเผยแพร่ต่อไป

ชะเอิงงังเงอ เอิงงังเง้ย

ก่อนจะฟังเพลงฉ่อยกันให้อร่อยหู  ฉันจะขอไหว้ครูตามเงื่อนไข

ยอกรประนมก้มกราบพระ   ขอให้มีชัยชำนะไม่ว่าไปทิศไหน
ไหว้คุณพ่อคุณแม่ผู้ก่อเกิด  ไหว้คุณครูผู้ประเสริฐเอาใจใส่
ขอพระคุณทั้งผองจงมาป้องปัด  อย่าให้ติดอย่าให้ขัดทุกคำไข
ลูกจะร่ำจะร้องก็ขอให้คล่องแคล่ว  ให้หวานจ๋อยเสียงแจ๋ว  จับใจ

(รับ) เอ่ชา.........

พอไหว้ครูเสร็จสรรพกลับเข้าเรื่อง  คือฉันจะชวนชมเมืองมีทั้งเก่าใหม่

ขอเชิญไปเที่ยวไปทัวร์กันเสียให้ทั่วที่  ขอเชิญมาฟังทางนี้ท่านอย่าเพิ่งไปไหน
ที่ฉันจะชวนไปชมไม่ใช่มีถมเถ  ฉันจะไม่เก็บของเก๊เอาแกล้งไก๋
มีหนึ่งเดียวในประเทศเขตย่านนี้  ก็จังหวัดราชบุรี นั่นปะไร

หลวงพ่อแก่นจันทน์
ไปไหว้หลวงพ่อแก่นจันทน์กันก็เสีนบก่อน  อย่าเพิ่งรีบร้อนไปเสียที่ไหน
พอถึงวัดช่องลมจึงค่อยก้มกราบ   ถ้าไม่ได้คิดทำบาปก็เป็นใช้ได้
ท่านเป็นพระคู่เมืองที่เรืองฤทธิ์   ทั้งปืนผาท่านก็ปิดปัดป้องได้
คือถ้าเขายิงฟันกันท่านอย่าไปยุ่ง  ให้นอนหลับอยู่ในมุ้งไม่เป็นไร

(รับ)

ชมโอ่ง
จะปิดทองพระพุทธจุดประทัด   ละครรำลำตัดเขาก็มีให้

(เจรจา)
  • เอ๊  เขามีลำตัดแก้บนด้วยหรือ
  • เปล่า ไม่มีหรอก
  • อ้าว
  • ฉันว่าเรื่อยเปื่อยไปเอง
  • อ้าว
จะปิดทองพระพุทธจุดประทัด   ละครรำตามถนัดเขาก็จัดให้
พอไหว้พระปิดทองแล้วก็ผ่องแผ้ว   แต่ไอ้ที่ตั้งไว้เป็นแถวนั่นนะอะไร
อ๋อ นั่นคือโอ่งมังกรมีแต่ก่อนเก่า  ราชบุรีเมืองเราเขาก็ปั้นได้
ทั้งโอ่งกลมโอ่งแบนโอ่งแป้นโอ่งป้อม  โอ่งย่อยโอ่งย่อมโอ่งเล็กโอ่งใหญ่
ถ้าอยากจะชมโรงงานที่เขาปั้นโอ่ง  ก็เดินลัดเข้าโรงมีอยู่มากหลาย
บ้างก็นวดบ้างก็ปั้นบ้างก็ผันบ้างก็เผา

(เจรจา)
  • เดี๋ยวที่ว่าบ้างก็นวดน่ะ นวดอะไร
  • อ๋อ นวดดิน (มือทำท่าขยำดิน)
บ้างก็นวดบ้างก็ปั้นบ้างก็ผันบ้างก็เผา  พอถึงวันเปิดเตาเกิดเป็นโอ่งไห
ท่านจะซื้อหรือจะสั่งช่างเขาให้ปั้น  เป็นของฝากของขวัญให้แม่แก้มไฝ
ถ้าชอบโอ่งใบไหนเอาไปเลยท่าน  แต่โอ่งของฉันอยู่ที่บ้าน อย่าเอาไป

(รับ)

ศาลหลักเมือง
โน่นแนะศาลหลักเมืองที่ท่านเรืองเดช   อยู่ในเขตทหารผ่านไปดูได้
เป็นของสูงสำหรับจะนับถือ   ไปมาถ้ามีมือมือยกมือไหว้ (ทำมือประกอบ)
ใครมีทุกข์มีร้อนนอนไม่ค่อยหลับ  ไปบนบานขานรับก็ไม่เสียหลาย
จะบนอื่นบนไกลไม่มีใครว่า  แต่ห้ามบนแก้ผ้า จะไม่สบาย

(รับ)

บ้านคูบัว
ถ้าอยากไปเที่ยวคูบัวท่านอย่ามัวช้า   ที่นั่นเขามีทอผ้าตีนจกใส่
มีทั้งลายดอกจันฟันจระเข้   ทั้งลายดอกรักเร่ลายน้ำไหล
ท่านจะดูเนื้อผ้าหรือดูหน้าคนทอ  แล้วท่านจะซื้อหรือจะขอเขาก็คงให้
ดูผ้าเสร็จสรรพกลับมาดูเมืองเก่า  ราชบุรีบ้านเราไม่ใช่เมืองใหม่
นักโบราณเขามาค้น  ขุดกันจนทั่ว   จึงรู้ว่าบ้านคูบัวเคยเป็นเมืองใหญ่
ยังมีซากรากฐานพยานชี้   สมันทวารวดีที่เขาบอกได้
ถ้าว่าท่านอยากจะรู้ขอเชิญไปดูเถิด  แต่คนร้องนี่ตั้งแต่เกิดยังไม่เคยไป

(รับ)

เขาวัง-เขาแก่นจันทน์-เขางู
โน่นอน่ะยอดเขาวังตั้งตระหง่าน   มองมองเหมือนวิมานอยู่ในม่านไม้
เห็นหน้าบันไดใบระกาช่อฟ้าเฟื้อย   ยอดเจดีย์เหมือนจะเลื้อยไปในฟ้าได้
นั่นน่ะเคยเป็นวังตั้งแต่ครั้งเก่า  องค์พระจุลจอมเกล้าท่านมาสร้างไว้
เดิมเป็นวัดแล้วเป็นวังแล้วเปลี่ยนวังมาเป็นวัด ดูสงบสงัดอีกทั้งเรียบง่าย
มีพระสงฆ์เคร่งครัดปฏิบัติชอบ   ถูกระเบียบระบอบน่าเลื่อมใส 

โน่นแนะเขาแก่นจันทน์อยู่ตรงนั้นแน่  ขึ้นเขาวังนั่งแลเห็นอยู้ใกล้ใกล้
มีถนนลาดยางทางถึงยอด   จะขับรถขึ้นไปจอดไว้บนยอดได้
มีพระสี่มุมเมืองที่ท่านเรืองฤทธิ์  ท่านประทับสถิตในวิหารใหญ่
ในหลวงพระราชทานด้านตะวันตก   เพื่อให้เหล่าสาวกจะได้กราบไหว้
ยังได้ชมทิวทัศน์ตัดทิวทุ่ง   เห็นไกลไปถึงกรุงเหมือนอยู่ใกล้ใกล้

มองไปเห็นเขางูอยู่ตรงนั้น   เขามีของสำคัญฉันจะบอกให้
มีพระสลักผนังงามถ้ำฤาษี   สมัยทวารวดีไม่มีไหน
พอถึงปีมีงานดังสะท้านถ้ำ   ผลบุญหนุนหนำไม่มีแหนงหน่าย
อันพระดีมีค่าอยู่ในป่าเก่า  เวรยามไม่มีเฝ้าก็ไม่ยักหาย
ท่านแกะพระติดถ้ำอยู่ประจำปี   ถ้าจะคิดจะยกถ้ำหนี ละก็สบาย

(รับ)

อ่านต่อ เพลงฉ่อยนำชมเมืองราชบุรี ตอนที่ 2

**************************************************

ที่มาข้อมูล
คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดทำหนังสือ เรื่อง "วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์ และภูมิปัญญา". (2543). หนังสือวัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดราชบุรี. กรมศิลปากร : องค์การค้าของคุรุสภา. (หน้า 256-262) (ดูภาพหนังสือ)
อ่านต่อ >>

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เพลง "พญาผึ้งเกมส์"

เพลง "พญาผึ้งเกมส์" แต่งขึ้นเพื่อเป็นเพลงประจำการแข่งขันกีฬาชาวไทยภูเขาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 23 ประจำปี 2554 "พญาผึ้งเกมส์"  ซึ่งจังหวัดราชบุรี ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 พฤษภาคม พ.ศ.2554 ณ บริเวณสนามกีฬาภายในจังหวัดราชบุรี  ประพันธ์เนื้อ ทำนอง ขับร้อง เรียบเรียง โดย อัจจิมา ทีฆวาทิน และอัดเสียงที่ห้องอัดเสียง Mix Down โรงเรียนดนตรีโดเรมี


เพลง "พญาผึ้งเกมส์" 
พวกเราพี่น้อง ชาวไทยภูเขา ร่วมใจสามัคคีมาร่วมชิงชัย
ในพญาผึ้งเกมส์นี้  เกษมเปรมปรี ด้วยความรักและความเข้าใจ
พวกเรามีน้ำใจนักกีฬา สง่าดังเพชรมณี
มาร่วมสร้างเสริม กิจกรรมแห่งปี  พวกเรายินดี 
ทำเพื่อพ่อของแผ่นดิน
พญาผึ้งเกมส์ พญาผึ้งเกมส์
เป็นกีฬาและเป็นยาอันวิเศษ
พญาผึ้งเกมส์ พญาผึ้งเกมส์
เป็นสื่อความรักและกำลังใจ สร้างความมานะและอดทน
เพราะเรามีน้ำใจแห่งนักกีฬา
พญาผึ้งเกมส์ พญาผึ้งเกมส์
พวกเราพี่น้องชาวไทยภูเขา ร่วมใจสามัคคีมาร่วมชิงชัย
ในพญาผึ้งเกมส์นี้ เกษมเปรมปรี ด้วยความรักแห่งสายเลือดไทย
พญาผึ้งเกมส์ พญาผึ้งเกมส์


*********************************************************
อ่านเพิ่มเติม
จังหวัดราชบุรีเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาชาวไทยภูเขาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 23


ที่มาข้อมูล
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี. (2554). สูจิบัตรการแข่งขันกีฬาชาวไทยภูเขาครั้งที่ 23 ประจำปี 2554. ไม่ทราบที่พิมพ์ (ดูภาพหนังสือ)
อ่านต่อ >>

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

บทกลอนประกอบภาพวาดประวัติเจ้าพ่อหลักหิน อ.วัดเพลง


ลุสมัย ทวาราวดี มีหลักฐาน                  เป็นตำนาน พันกว่าปี  ที่พ้นผ่าน
หลักศิลา จารึกไว้ ในอดีตกาล                  ถึงเรื่องราว เล่าขาน "ศาลหลักหิน"
ที่บ้านหนอง- เกสร กาลก่อนนั้น      อยู่ใกล้กัน วัดคูบัว คนทั่วถิ่น
รู้จักดี มีชื่อดัง ทั้งแผ่นดิน                ต่างทำนา หากิน ทั่วเขตคาม



อยู่ต่อมา มีชาวนา มาเกี่ยวข้าว        เห็นปลา กระโจนอ้าว ริมคลองนั่น
ลงงมปลา พบศิลา ประหลาดพลัน        อัศจรรย์ นิมิตหมาย "คล้ายหลักเมือง"
ทั้งใหญ่ยาว ราวเมตรกว่า สง่านัก           เป็นสิงศักดิ์-  สิทธิ์คู่บ้าน มานานเนื่อง
งานเลิศล้น ชนบูชา ค่าควรเมือง   ต่างลือเลื่อง โจษจรรย์ กันทั่วไป



แล้วปรึกษา พากัน ขมันขมี                  ส่งมอบที่ อำเภอกัน นั้นดีไหม?
รวมแห่แหน พร้อมพลัน ในทันใด           แม้ทางไกล กันดาร ไม่หวั่นเกรง
จึ่งมาตั้ง สร้างพระแท่น ประดิษฐาน      ณ ริมธาร แควอ้อม พร้อมรีบเร่ง
ตั้งอยู่ข้าง ที่ว่าการ อ.วัดเพลง                            งามปลั่งเปล่ง เป็นหลักเมือง รุ่งเรืองเนา



       กาลต่อมา คนชั่วช้า ทำหยามหยัน             ใช้ไฟอัน ร้อนแรง แดงแผดเผา
น้ำรดซ้ำ กฏแห่งกรรม ตามเหมือนเงา  ที่สุดเขา จึงดับดิ้น สิ้นชีวี
สุดท้ายผู้-  ใหญ่ท่าน ฝันนิมิต                               "พ่อหลักหิน" ให้เชิญสถิตย์ ประจำที่
พิธีกรรม ทำถูกต้อง ต้องได้ดี                             เครื่องเซ่นพลี ขอขมา บรรณาการ



สถิตย์ไว้ ในจตุรมุข แสนสุขสม        ชนชื่นชม ชี้ชวนมา พากล่าวขาน
เคารพเช่น เป็นหลักเมือง รุ่งเรืองนาน           ตราบเหลนหลาน "พ่อหลักหิน" ถิ่นวัดเพลง
จึงกาพย์กลอน ไว้สอนใจ ให้แง่คิด   ใครทำผิด ทำเลวร้าย หมายข่มเหง
จะแพ้ภัย ร้ายกาจ พินาศเอง            จงรีบเร่ง สร้างกรรมดี พี่น้องเอย


********************************************************

วาดภาพ :  นายประเทือง บัวบาง อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนวัดแจ้งเจริญ
กลอน : นายสุชิน  ตันติอำนวย ศึกษานิเทศก์ 7 สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอวัดเพลง


ที่มาข้อมูล
สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอวัดเพลง. (2542). ประวัติศาลเจ้าพ่อหลักหิน อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี. เอกสารหมายเลข 1/2542. ราชบุรี : โรงเรียนวัดแจ้งเจริญ.


อ่านต่อ >>

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

นิราศถ้ำจอมพล

นิราศถ้ำจอมพล นี้ประพันธ์โดย ผู้ที่ใช้นามปากกาว่า "กลอยใจ" ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร (สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.ศ.5 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี ปีการศึกษา 2518 เป็นการเขียนส่งอาจารย์)  นิราศถ้ำจอมพลนี้ จัดพิมพ์ไว้ในหนังสืออนุสรณ์ของนักเรียนโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี ที่จบการศึกษาปี พ.ศ. 2518

                                                               นิรานิราศร้างอย่างเหงาเหงา
บรรยากาศเงียบขรึมชวนซึมเซา             ฤดูร้อนมาดเก่าเริ่มเร่าร้อน

๒..ตะวันโผล่ยิ้มพรายตรงปลายฟ้า           เปล่งใยทองทาบทามาอ่อนอ่อน
ขึ้นรถทัวร์(สองแถว) แล้วบทจร                ไม่อาวรณ์...แต่ละเหี่ยเพลียหัวใจ

๓..ท่านอาจารย์สั่งนักเรียนเขียนนิราศ      นักเรียนก็ไม่อาจขัดใจได้
เขียนเป็นบ้างไม่เป็นบ้างช่างปะไร            หากไม่เขียนก็จะไม่ได้คะแนน

๔..ในโลกนี้เป็นอะไรได้ไม่ยาก                 เป็นกวีนี้ต่างหากลำบากแสน
เหลือบแลไปทั่วพิภพจบดินแดน               ก็ล้วนแต่ขาดแคลนแก้วกวี

๕..คุณอาคมครอบงำปะรำหลวง               สำทับดวงใจผู้เข้าสู่ศรี
เจ้าแผ่นดินถิ่นประชาไทยธาตรี                 ก็ยังมีบางพระองค์ทรงกาพย์กลอน

๖..หลายรัชกาลเก็จกรองฟ่องเฟื่องฟ้า      และหลายคราถ้าใครทักสุนัขหอน
บางยุคเคยใกล้บาทราชบวร                      บางยุคนอนกลางดินกินกลางวัด

๗..โอ้.. กวีฤาแล้งแหล่งสยาม                    แต่แล้งความอาทรสุข – ทุกข์ถนัด
กวีเอ๋ยเคยโชติช่วงเพียงดวงรัตน์              เดี๋ยวนี้พลัดบุญล่วงเป็นดวงดิน

๘..เรามิใช่กวีที่สูงศักดิ์                              แต่ด้วยรักกลอนกานต์มานถวิล
เขียนเพื่อสืบต่อพงศ์วงศ์กวิน                   มิให้สิ้นศักดิ์สยามเฟื่องนามดัง

๙..สิบนิ้วไหว้วอนครูมาอยู่ขวัญ                ข่มใจอันเวิ้งว้างว่างความหวัง
อารมณ์เลื่อนลอยหนอศิษย์ขอรั้ง            เพื่อสอนสั่งศิลปะสุนทรแห่งกลอนไทย

๑๐..ขอกราบกรานครูกลอนสุนทรภู่          วิญญาณท่านสถิตอยู่สวรรค์ไหน
ศิษย์ขอเชิญมาอยู่ขวัญผลักดันใจ            ให้แจ่มใสทุกวลีที่กลั่นกรอง

๑๑..สองแถวทัวร์รัวสั่นทั้งคันส่าย             แฉลบซ้ายแฉลบขวาน่าสยอง
กลัววิ่งไปล้อหลุดทรุดลงคลอง                 หรือหากต้องลงเข็นเห็นจะซวย

๑๒..มองท้องนาหน้าแล้งดินแห้งผาก       หญ้าตายซากเหลืองคร่ำข้างลำห้วย
ตาลยืนข้างต้นเดี่ยวเปลี่ยวระทวย             ไม่สดสวยศิวิไลซ์อย่างในเมือง

๑๓..เดือนแปดแล้วฝนยังไม่หลั่งหล้า       โอ้ชาวนาใครจะปลุกปลดทุกข์เปลื้อง
แพข้าวกล้าเฉาใบให้ขุ่นเคือง                    ปล่อยชีพเปลืองเปล่าไปแต่ไรมา

๑๔..น้ำในคลองขอดแห้งเพราะแล้งจัด     ลมร้อนพัดวูบผ่านเหนือลานหญ้า
ข้าวเกรียมไหม้หม่นหมองทั่วท้องนา         เพราะแดดกล้าเผากราดขาดฝนลง

๑๕..เสียงเพลงเกี่ยวปีนี้ที่จะเงียบ               ลานนวดเรียบจะมีแต่ขี้ผง
เพลงขวัญข้าวคงค้างแต่กลางวง               และจบลงตรงเพลงรอปีต่อไป

๑๖..สองแถวทัวร์ถึงจอมบึ่งเต็มที่               เจอะโชเฟอร์ตีนผีนี่ไม่ไหว
นั่งหัวสั่นหัวคลอนจนอ่อนใจ                       ผ่านวิทยาลัยจอมบึงจึงชะลอ

๑๗..เห็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ยิ้มระรื่น              แหมคุณครูสดชื่นกันจริงหนอ
อยากเรียนครูแต่ความรู้เราไม่พอ               แต่เราก็เก่งพิมพ์มือโรงจำนำ

๑๘..สองแถวทัวร์สุดสายตรงชายเขา        กลุ่มพวกเราแยกย้ายไม่พูดพร่ำ
กินก๋วยเตี๋ยวกินขนมกินส้มตำ                     ก่อนชมถ้ำสวยงามนาม “จอมพล”

๑๙..หลังจากอิ่มหนำสำราญทั่ว                 เราซื้อถั่วซื้อกล้วยด้วยหลายผล
ติดไปฝากฝูงลิงวิ่งลุกลน                            มันซุกซนอยู่ตามชั้นขั้นบันได

๒๐..บางตัวขึ้นต้นตะแบกแหกตาหลอก       คนปีวอกจะเหมือนลิงจริงจริงไหม
หากมนุษย์เลือกเกิดได้ดั่งใจ                       ได้เกิดใหม่จะขอหนีปีวอกเลย

๒๑..ลงบันไดเข้าในถ้ำเย็นช่ำชื่น                ชั่งแสนชื่นในกมลจนเหลือเอ่ย
โอ้งามไหนหรือจะเทียบสุดเปรียบเปรย      ใครที่เคยมาดูย่อมรู้ดี

๒๒..ตรงไหนมืดที่สุดเป็นจุดอับ                    เขาประดับประดาไว้ด้วยไฟสี
ตรงไหนป่ายปีนลำบากยากเต็มที                 เขาก็มีสะพานไม้บันไดรับ

๒๓..ตามหลืบหินรอบด้านเพดานถ้ำ             มีค้างคาวตัวดำห้อยหัวหลับ
บ้างลืมตาสะท้อนแสงแดงระยับ                   ดูเหมือนกับแสงดาวที่วาววาม

๒๔..บนพื้นถ้ำที่เหยียบย่างเย็นยะเยียบ         บางตอนเรียบบางตอนโขดต้องโดดข้าม
บ้างลดหลั่นเป็นชั้นช่างสวยงาม                    เป็นไปตามธรรมชาติแต่งวาดไว้

๒๕..มีถ้ำเล็กชื่อว่านาคานิราส                      มีบาดาลลึกมากเป็นที่อยู่
ก่อนคงมีพญานาคอยู่ข้างใน                         เขาจึงตั้งนามไว้ให้คนรู้

๒๖..ตามตำนานโบราณว่าพญานาค            มีบาดาลลึกมากเป็นที่อยู่
เป็นเมืองใหญ่ในทีวีเคยมีดู                           ใช่อาศัยอยู่ในรูอย่างงูดิน

๒๗..มีชั้นหินหลายหลากจากข้างถ้ำ             เป็นทางน้ำไหลเลาะเซาะซอกหิน
เขาให้ชื่อว่าธารศิลาริน                                 ใครได้ยิน คงกังขาทำท่างง

๒๘..ใช่ศิลาจะไหลได้ดั่งสายน้ำ                   แต่ว่าธรรมชาติช่วยเสริมส่ง
เกิดจากน้ำเซาะหินรินไหลลง                        พัดพาผงหินตะกอนซับซ้อนกัน

๒๙..มีหินย้อยเป็นระย้างามตาเหลือ                 มองไม่เบื่อดั่งเมืองแมนแดนสวรรค์
ระย้าย้อยแย้มเก็จดุจเพ็ชรพรรณ                       สมชื่อนั้นสร้อยระย้าค่าควรเมือง

๓๐..มีบ้างย้อยระย้าดูคล้ายคูหา                      เขาประดับประดาไว้ด้วยไฟเหลือง
ดูยิ่งเหมือนถ้ำทองอันรองเรือง                        แสนสุดงามประเทืองประทับใจ

๓๑..เขาตั้งนามไว้สมนามถ้ำทองนั้น                คูหาอันวิจิตรน่าพิสมัย
เปล่งรังสีเรืองรองผ่องอำไพ                              เขาชื่อไว้จุลคูหาอย่างน่าชม

๓๒..มีแอ่งหินเป็นอ่างอย่างวิจิตร                     ชื่อพิชิตชลนี้มีนามสม
มองเงาน้ำงามตาน่านิยม                                  ความงามข่มงามไหนไม่อาจเทียม

๓๓..ยิ่งมองยิ่งงามตาจะหาไหน                       ธรรมชาติแต่งไว้ได้ยอดเยี่ยม
ถึงมนุษย์ทั้งหล้ามาจัดเตรียม                           ก็ไม่เทียมธรรมชาติสร้างสักอย่างเดียว

๓๔..ถัดจากนี้มีหน้าผาหน้ายลยิ่ง                      เป็นกำแพงชันดิ่งอยู่โดดเดี่ยว
ผาวิจิตรผางามสมนามเชียว                              เขาติดไฟสีเขียวสวยสดตา

๓๕..มีหินย้อยห้อยสยายคล้ายสาวสาว              ปล่อยผมยาวลงสยายร่ายริมบ่า
มีบ้างคล้ายเครื่องสูงพระราชา                            จึงชื่อว่าแส้จามรงามงอนนัก

๓๖..บนพื้นมีหินงอกออกเป็นหน่อ                       มองเหมือนตอไม้เขาเอามาปัก
ทำไมหินงอกได้ใครต่างทัก                                 เราก็ชักแปลกใจไปเหมือนกัน

๓๗..จากหินงอกหินย้อยใหญ่น้อยนั้น                   ประกอบกันเป็นแท่นมีฐานมั่น
เขาให้ชื่อบรมอาสน์อัฒจันทร์                              เช่นเชิงชั้นบรมอาสน์พระศาสดา

๓๘..เพดานถ้ำตรงนี้มีช่องใหญ่                            ลำแสงไล้ลูบลงตรงแผ่นผา
จากตรงนี้เราจึงมองเห็นท้องฟ้า                           และพบว่าบ่ายคล้อยไม่น้อยแล้ว

๓๙..ก้าวเดินถึงก้นถ้ำลึกล้ำมาก                           ได้พบซากฤาษีมีตาแป๋ว
ยามสะท้อนแสงไฟใสวับแวว                                เขาฝังแก้วเอาไว้หรือไงนะ

๔๐..หรือจะเป็นฤาษีผู้มีฤทธิ์                                  มาหลบเล้นเม้นมิดถือตะบะ
ละโทโสโมหะละโลภะ                                           สำเร็จแล้วเลยละจากร้างไป

๔๑..ทิ้งร่างไว้เหี่ยวแห้งเป็นแท่งหิน                       ซากมุนินทร์ทรงสิทธาน่ากราบไหว้
มีชื่อว่าธาตุเนรมิตสิทธิชัย                                     ควรใครใครถืออย่างทางนิพพาน

๔๒..ท้ายที่สุดมีพระพุทธรูปใหญ่                           ในปางไสยาสน์อยู่ดูภูมิฐาน
ชื่อพระพุทธบรรทมโพธิ์สมภาร                             ให้ชาวพุทธนมัสการบำเพ็ญบุญ

๔๓..เราจุดธูปจุดเทียนอธิษฐาน                             ขอบันดาลบุญเก่าดลกุศลหนุน
พระบารมีพิสุทธิ์พระพุทธคุณ                                  ผลานิสงส์ค้ำจุนเจิดจำรูญ

๔๔..ขอคนโฉดชั่วร้ายอย่ากรายใกล้                       ทั้งเคราะห์โศกโรคภัยให้เสื่อมสูญ
ให้รู้สร้างสิ่งดีทวีคูณ                                                ให้เพิ่มพูนสินทรัพย์นับอนันต์

๔๕..อธิษฐานขอให้ไทยทั้งชาติ                              หยุดพิฆาตหยุดสงครามความป่วนปั่น
ไทยควรสามัคคีดีต่อกัน                                           คอยห้ำหั่นผู้รุกรานบ้านเมืองเรา

๔๖..มือพนมก้มกรานสะท้านจิต                               เมื่อหวนคิดถึงเพื่อนไทยใจยิ่งเศร้า
ศาสนาถึงจุดทรุดซบเซา                                          วัดเงียบเหงาคนรุ่นใหม่ไม่เหยียบเยือน

๔๗..กลางสังคมสัตว์สองขาหน้าไร้ขน                     ยังเวียนวนในกะลาความป่าเถื่อน
ศาสนาสูงเกินจะเดินเตือน                                         เมื่อต่างเบือนหัวใจไม่ยอมรับ

๔๘..ต่อให้อาบน้ำมนต์จนตัวเปื่อย                            และเรื่อยเจื้อยจำคาถาว่าเป็นตับ
ถ้าใจขาดพระธรรมคอยกำชับ                                    ก็เหมือนหลับตาเดินเผชิญสุข

๔๙..จากทารกร้องจ้าเรียกหาแม่                                ถึงคนแก่กอดหลานตายได้เป็นสุข
ชั่วชีวิตชิดแต่ช้ำกระหน่ำชุก                                       สืบต่อยุคแย่งกันอยู่อย่างผู้คน

๕๐..เมื่อคงความสมบูรณ์พูนสมบัติ                           พระคุณวัดซัดหายไปทุกหน
ต่อเคราะห์หามยามร้ายกล้ำกรายตน                          จึงร้อนรนวนเข้าวัดขจัดภัย

๕๑..แสงโชติช่วงเทียนไชยไหว้พระพุทธ                  อาจรู้จุดจนกระจ่างกล่าวอ้างได้
แต่กับแสงพระธรรมประจำใจ                                     เหมือนจุดในธารกมลซึ่งวนเวียน

๕๒..กลางสังคมสัตว์สองขาหน้าไร้ขน                      ต่างหมุนวนวิ่งไปตามความแปรเปลี่ยน
ใครจะพร้อมยอมกระทำเป็นลำเทียน                          ที่พากเพียรเผาตัวเพื่อเหลือน้ำตา

๕๓..เป็นอันเสร็จสุขสมการชมถ้ำ                              ความงามล้ำอาจบรรยายไม่สมค่า
ใครมาแล้วจะจากไปอาลัยลา                                    คงกลับมาอีกครั้งด้วยฝังใจ

๕๔..เพราะถ้ำนี้มีที่กว้างกว่ากว้าง                              มีความมืดที่เวิ้งว้างสว่างไสว
เป็นเถื่อนถ้ำแต่เป็นที่ไม่มีภัย                                      อยู่ห่างไกลแต่ก็ใกล้คุณธรรม


พิมพ์โดย
สุจิตรา  กวางประชัน นักศึกษาฝึกงาน มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง : 30 มี.ค.2554
อ่านต่อ >>